เมโทรฯจัดประเพณีรับน้อง-แข่งเรือ เน้นสร้างสรรค์ ลดความรุนแรง

เมโทรฯจัดประเพณีรับน้อง-แข่งเรือ เน้นสร้างสรรค์ ลดความรุนแรง เมื่อวันที่ผ่านมา วิทยาลัยเทคโนโลยีเมโทร จัดประเพณีรับน้อง- แข่งเรือ เน้นเชิงสร้างสรรค์ ลดความรุนแรง สร้างความรัก ความสามัคคีในหมู่คณะ และเป็นไปตามมาตรการรับน้องปีการศึกษา 2556 ของกระทรวงศึกษาธิการ ให้เน้นการจัดกิจกรรมรับน้องเชิงสร้างสรรค์ ปีการศึกษา 2556 วิทยาลัยฯ จัดการแข่งขันเรือคายัค บริเวณคูเมืองด้านหน้า วิทยาลัยเทคโนโลยีพณิชยการเชียงใหม่ ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ประเภทเดี่ยว และประเภทคู่ ระยะทาง 100 เมตร ไฮไลท์ของการแข่งขัน อยู่ที่นักกีฬาที่ลงแข่งขันเป็นน้องใหม่และแต่งตัวแนวแฟนตาซี เป็นการเน้นความสนุกสนาน มากกว่าการแพ้ชนะ โดยมีทีมนักกีฬาจาก แผนกวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ ,แผนกวิชาช่างยนต์ ,แผนกวิชาไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ,แผนกสถาปัตยกรรมและทีมครู เพื่อความผูกพันธ์ระหว่างครูกับนักศึกษา หลังจากแข่งขันพายเรือคายัค นักศึกษากลับเข้ามาทำกิจกรรมรับน้องใหม่ในวิทยาลัยฯ แยกย้ายตามแผนก มีการแข่งขันร้องเพลงเชียร์ แข่งขันการบูม นับเป็นกิจกรรมที่ดีและสนุกสนาน สร้างความสามัคคีในหมู่คณะได้เป็นอย่างดี ด้านนายมารุต ศิริธร ผู้อำนวยการวิทยาลัยฯ เปิดเผยว่า “ประเพณีรับน้อง- แข่งเรือ เป็นประเพณีที่มีมานาน เป็นธรรมเนียนที่ปฏิบัติกันมา 11 ปี ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 12 มุ่งหวังเชื่อมสัมพันธภาพของ รุ่นพี่รุ่นน้องให้มีความสามัคคี มีระเบียบวินัย ภาคภูมิใจในสถาบัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เคารพ ครู อาจารย์กิจกรรมรับน้องเป็นสิ่งดีงาม แต่ต้องกระทำให้ถูกต้องเหมาะสมตามเจตณ์นารมณ์ วิทยาลัยฯสนับสนุนนโยบายรับน้องในปีการศึกษา 2556 ของกระทรวงศึกษาธิการ ห้ามไม่ให้รุ่นพี่จัดกิจกรรมรับน้องใหม่นอกสถานศึกษาโดยเด็ดขาด และให้อยู่ในการดูแลรับผิดชอบร่วมกันของผู้บริหารและครู การจัดกิจกรรมรับน้องมีลักษณะสร้างสรรค์ส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมไม่ขัดต่อระเบียบของวิทยาลัยฯ และประเพณีวัฒนธรรมที่ดีงามของสังคม รวมถึงต้องเคารพเสรีภาพส่วนบุคคลด้วย ห้ามล่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคลทั้งทางร่างกายและจิตใจ หลีกเลี่ยงพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง ปราศจากอบายมุข สารเสพติด และการล่วงละเมิดทางเพศ ส่งเสริมให้จัดกิจกรรมสร้างสรรค์อย่างหลากหลาย โดยจัดกิจกรรมสันทนาการ การแข่งเรือประเพณีขึ้นเพื่อส่งเสริมความสามารถ การกล้าแสดงออก สร้างความรัก สามัคคีระหว่างรุ่นพี่ รุ่นน้อง ในการเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมสถาบันเดียวกันอีกด้วย”